เรื่องเล่าจากประสบการณ์ที่ต้องการถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังๆ ได้ฟังไม่ได้ตกแต่งรสชาติ เป็นช่วงหนึ่งที่วิถีความเป็นชนบทที่ยังคงมีอยู่ และภาพแห่งความเอื้ออาทร การช่วยเหลือ ซึ่งกันและกันการระดมสรรพกำลังเพื่อส่วนรวมยังเป็นเอกลักษณ์ ความเป็นวิถีชุมชนที่น่าอยู่ ถามว่าทำไมผมต้องมาเล่าเพราะสักวันหนึ่งมันคือตำนาน อาจจะถูกลืมเลือนหายไปจากความทรงจำที่สวยงามของชุมชนและประวัติศาสตร์ ที่ไม่มีใครรู้ความจริงเท่าที่ควร พยายามปรุงเสริมแต่งเพิ่มความคิดตนเองลงไปทำให้ความจริงนั้นเปลี่ยนไป คนรุ่นหลังจะเข้าใจไปเองว่าน่าจะใช้ อย่างนั้นอย่างนี้ เป็นต้น
เส้นทางการเข้า-ออกหมู่บ้าน
บ้านปังกูสม้ยนั้นการคมนาคมลำบากมาก เส้นทางเป็นคลอง การเดินทางที่จะไปติดต่อทำธุระกับหมู่บ้านข้างเคียงส่วนใหญ่ใช้เกวียนเป็นพาหนะเดินทาง และเดินเท้า ถ้าใครมีจักรยานปั่นบนคันนา ดังนั้นเส้นทางจะเป็นลักษณะคลอง และเป็นทางน้ำไหลเมื่อหน้าฝนหรือเรียก(ปลาย) ซึ่งเกวียนสามารถขับสวนทางกันได้ แปลว่าคลองกว้างพอสมควร (ปัจจุบันอาจจะเรียกคลอง หรือฝาย หรือปลาย) ภาษาท้องถิ่นเรียก "ปลาย"
เส้นทางการเข้า-ออกหมู่บ้าน มีทั้งหมด ๔ เส้นทาง ประกอบด้วย
เมื่อยืนกลางสี่แยกบ้านปังกูหันหน้ามาทางทิศตะวันออกคือทางมาอำเภอประโคนชัย(สมัยนั้นเรียกทิศตะวันออก)
ส่วนขวามือคือทิศใต้เส้นทางจากบ้านปังกูไปบ้านหัวช้าง หัวเสือ บ้านประหูด โคกสะอาด และตะโกหวานเป็นคลอง
ส่วนทางซ้ายมือ คือทิศเหนือ เส้นทางจากบ้านปังกูมาทางบ้านโคกย่างเป็นคลอง
ส่วนด้านหลัง คือทิศตะวันตก เส้นทางไปโรงเรียนบ้านปังกู ไปบ้านห้วยเป็นคลอง
ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของบ้านปังกู
จะเป็นโคกสูงจะเห็นได้ว่ากลางสี่แยกหมู่บ้านจะเป็นจุดสูงสุดเหมือนหน้าจั่ว ด้านทิศตะวันออก และทิศตะวันตกสมัยนั้นไม่ชันเท่าไหร่ โดยเปรียบเทียบจากการปั่นจักรยานถ้าปล่อยในขณะที่เราบังคับไม่ต้องปั่นจากสี่แยกบ้านปังกูแล้วความเร็วจักรยานเร็วแค่ไหนนั้นคือความชัน
ถ้าปล่อยจักรยานจากสี่แยกมาทางทิศตะวันออกโดยไม่ต้องปั่นถึงโค้งท้ายวัด
ถ้าปล่อยจักรยานจากสี่แยกมาทางทิศตะวันตกโดยไม่ต้องปั่นถึงท้ายหมู่บ้านพอดีลงคลอง
ถ้าปล่อยจักรยานจากสี่แยกมาทางทิศใต้โดยไม่ต้องปั่นถึงสะพานไม้ (ปัจจุบันเป็นท่อแล้ว)ถ้าไม่มีสะพานไม้อาจจะถึงแยกไปทางบ้านประหูด
ถ้าปล่อยจักรยานจากสี่แยกมาทางทิศเหนือไม่ต้องปั่น(ทางนี้ชันที่สุด) โค้งมีสองโค้งดังนั้นต้องเบรคงั้นหลุดโค้ง
ปัจจุบันยังมีร่องรอยให้เห็นบ้างเล็กน้อยเช่นทางไปทางทิศเหนือบ้านโคกย่าง เป็นต้น ส่วนทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตกแทบจะไม่มี
ปัญหาของเส้นทางในหมู่บ้านเมื่อมันชัน
การขนย้ายสิ้นค้าทางการเกษตรต้องใช้เกวียน ตั้งแต่หน้าฝนจนถึงหน้าขนข้าวเก็บเข้ายุ้ง เพราะเส้นทางมีแต่โคลนและที่ลำบากที่สุดคือทางทิศเหนือกับทิศใต้ เส้นทางทิศเหนือโคลนตั้งแต่ลงสี่แยกประมาณ ๑๐ เมตร ซึ่งลึกครึ่งวงล้อเกวียนเกือบถึงทางโค้งแรกเลยไปโคลนไม่ลึกจะไปลึกอีกทีท้ายหมู่บ้าน ส่วนทางทิศใต้โคลนตั้งแต่ลงสี่แยกประมาณ ๕๐ เมตร จนถึงซอยแรกซ้ายมือ ส่วนทิศตะวันออก และทิศตะวันตกโคลนเล็กน้อย