วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

พระผงที่ระลึกงานฝังลูกนิมิตร

ของที่ระลึกในงานฝังลูกนิมิตรบ้างปังกู

บ่อน้ำในอดีต

แทบไม่น่าเชื่อว่าบ่อน้ำที่มีความลึกเป็น๑๐กว่าเมตรจะเหลือแค่เท่าแอ่งหรือปลักควายนอนเท่านั้นเอง

แต่อย่างน้อยสิ่งที่เหลือให้รู้ได้คือต้นตาลที่ยังคงยืนต้นให้เราได้รู้ได้ว่าบ่อน้ำเคยมีอยู่ตรงที่แห่งนี้นั้นเอง

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เสียงเกราะเคาะประชุมกับหอกระจายข่าว

ความเจริญเข้ามาจนความสามัคคีภายในชุมชนกลายเป็นการจ้องเอารัดเอาเปรียบ จ้องดูผลประโยชน์เป็นหลัก หาช่องว่างกอบโกยผลประโยชน์ต่าง ๆ มาเป็นของพวกพ้อง และของตนเอง
อะไรคือผลกระทบที่คลานเข้ามาโดยผู้เสพไม่รู้ตัวนั้นคือความเจริญของสื่อ นั้นเอง  ด้วยความเจริญทั้งด้านสื่อเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดมาอย่างรวดเร็ว ทำให้สังคมชนบทกลายเป็นสังคมคนเมือง ไปโดยไม่รู้ตัวเช่น การไปมาหาสู่กัน การนั่งคุยแลกเปลี่ยน หรือถามสารทุกข์กัน กลายเป็นการโทรศัพท์สอบถามการมีปฏิสัมพันธ์ต่อหน้าห่างหายไปกลายเป็นอยู่บ้านใครบ้านมันดังนั้น
         เช่น การประชุมลูกบ้านสมัยก่อนจะใช้เกราะเคาะประชุมลูกบ้านเมื่อผู้ใหญ่บ้านมีข่าวแจ้งให้ลูกบ้านทราบ ทำให้มีเวลาได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนเจอน่ากันถึงแม้ไม่มีไฟฟ้า ส่องสว่างมีตะเกียง ทุกคนต่างรู้หน้าที่ต้องไปรับทราบข้อมูลข่าวสาร และได้เจอเพื่อนบ้านหลาย ๆคน
         เครื่องขยายเสียงประจำหมู่บ้าน เป็นหอกระจายข่าว ที่เป็นดาบสองคม การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกบ้านกับผู้ใหญ่เริ่มห่างหาย การที่จะโต้ตอบหรือสอบถามข้อมูลไขข้อสงสัยไม่มี เพราะผู้พูดมุ่งกระจายข่าวข่าวสาร นั้นคือการสื่อสารทางเดียวโดยไม่มีผู้ตอบ ผู้ฟังได้แต่ฟังไม่มีข้อซักถามอันใดนอกจากไปหา และบางคนที่ห่างไกลเครื่องขยายแทบจะไม่ได้ยินอะไรเลย หรือได้ยินขาดๆหาย รอถามเพื่อบ้านด้วยกันว่าเขาประกาศอะไร มีเรื่องอะไร นี่คือความเจริญที่มีทั้งข้อดี และข้อเสีย ของสังคมปัจจุบัน
         ข้อเสีย
              การโต้ตอบข่าวสาร,การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ไม่มี
              การรับฟังข่าวสารที่ชัดเจนและไขข้อข้องใจ ไม่มี
              การแลกเปลี่ยน หรือถามสารทุกข์สุขกันระหว่างเพื่อนบ้านด้วยกัน ไม่มี
          ข้อดี
               ไม่ต้องเดินทางมารับฟังเสียเวลา
               มีเวลาความเป็นส่วนตัวหรือครอบครัวมากขึ้น

    ความเห็นแก่ตัวแทนที
               ไม่ต้องไปหรอกดูข่าวก้อรู้ เดี๋ยวรอถามคนนั้น หรือเดี๋ยวโทรไปถาม ไปก้อไม่เห็นมีอะไร
และการดูแลกันของคนในชุมชน กลายเป็นจำกัดวงแคบ ๆ เป็นแค่คนรู้จักที่สนิท คนบ้านใกล้กัน และญาติพี่น้อง
                 การช่วยงานบุญ หรืออะไรที่เป็นส่วนรวมเริ่มหายไปต่างมองถึง ผลประโยชน์ ว่า คนนั้นได้ คนนี้ได้ ซึ่ง มันเปลี่ยนความคิด คนที่เคยช่วยเหลือ และเอาใจใส่ต่อเพื่อบ้านด้วยกัน หรือเกี่ยงกัน ซึ่งต่างจากเดิม   เพราะการเปลี่ยนแปลงทางสภาพของสังคม ทุกคนต่างมุ่งการแข่งขัน ต่างต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด เพื่อความมั่งมี เพื่อความมีหน้ามีตาทางสังคม ดังนั้นการที่จะมาเสียสละเวลาเพื่องานส่วนรวมเริ่มหายไป
             
Google